Relax and stress with the harmonious blending of visual and musical element.
ฉันเฝ้ามองเธอมาตั้งแต่จำความได้ มิใช่สิ อาจย้อนไปไกลกว่านั้น เธอเย็นฉ่ำแต่ก็แฝงด้วยความอบอุ่นเอิบอิ่มยามสัมผัส ฉันรักเธอและอยากได้พบในความเป็นจริง ไม่ว่าหิวหรือหนาว เธอคือหยาดทิพย์ที่ไม่มีวันลืมเลือนไปจากใจ
เสียงหวีดหวิวเคาะเส้นเสียงตามคลื่นลมหนาว ทำให้คิดถึงที่นอนนุ่มที่อมความเย็นลึกที่แม่ปูให้นอน ลูกน้อยของแม่ยังคงเยาว์ในใจของแม่เสมอมา ความห่วงใยและอาทรยังสัมผัสได้ทุกครั้งที่สายลมพัด แม่ยังคอยกลัดกระดุมและคลุมผ้าห่มเมื่อยามหลับไหล ฉันคิดถึงแม่ และอยากเกิดเป็นลูกของแม่อีก
พลเมืองใบไม้ เกาะเกี่ยวซ้อนแซมเต็มผืนป่า ร้องระบำเริงร่ายามลมโบกพัด เมื่อเดินลัดเลาะตามราวป่า เสียงเพลงใบไม้ขับกล่อมเรื่องราว ตำนานของสรรพชีวิต สุข เศร้า เหงา รัก ถึงเวลาคืนค่ำก็หลับนอนอย่างเงียบเชียบ รอวันใหม่เพื่อจะเริงระบำ เติมสีสันให้โลกสีเขียว
วันนั้นฉันมองไปยังขอบฟ้าเคยถามตัวเองว่ามันจะไปสิ้นสุด ณ.ที่ใด ขอบฟ้าคือที่ที่ไม่มีวันไปถึงคงมีแต่จิตที่ส่งไปถึงกัน ที่ที่มีคนที่รักฉันที่สุดห่วงใยฉันที่สุดรอคอยอยู่ ฉันรู้ สิ่งต่างๆไม่มีวันหวนคืน แต่ก็ยังเฝ้ารำลึกถึงทุกครั้งที่มองไปยังขอบฟ้า
ในโลกแห่งความจริง ฉันเห็นแสงสว่างในภาพอันพร่ามัว สรรพสิ่งเคลื่อนไหวด้วยสมการของมายา แต่ในโลกแห่งความฝัน ในความมืดกลับมีความชัดที่แฝงเร้น ความหมายและโลกที่กว้างใหญ่ด้วยสัจธรรม วิญญาณอาจคือตัวตนที่แท้จริงของเราหรือหลายๆคน ปิดกั้นด้วยมิติ และ จิตที่สับสน จนกว่าจะหลับลงอีกครั้ง เสรีภาพของชีวิตจึงกำเนิด
เก็บเศษหินเศษดิน ก่อเกิดปราสาทที่เราอยู่ร่วมกัน จูงมือเด็กน้อยก้าวสู่โลกกว้าง ฉันและเธอเสมือนผู้สร้าง โลกสวยด้วยความรัก
ทำจิตให้ว่างเปล่าเตรียมรับพลังอันบริสุทธิ์ของชีวิต ถ่ายเทความคิดที่เหนื่อยล้า ชีวิตอันสับสนออกไป เติมเต็มหัวใจด้วยสายใยที่ถักทอความรักจากจักรวาล
ในปราศนาการของจิต ล่องลอยไปไกลไร้กาลเวลา อุ่นสบายเสมือนอยู่ในครรภ์มารดา เสมือนเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาต่อเหล่ามายาการ แสวงหาล้มลุกคลุกคลานในโคลนตมความลุ่มหลง ฉันเมื่อฉันปล่อยดวงจิตปลิวไปดั่งขนนก สภาพไร้มวลในท่ามกลางจักรวาลมิสิ้นสุด เบิกบาน ไร้ความรู้สึก เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทาง มากมายหลายล้านๆๆดวงจิต เวียนว่ายเพื่อไปสู่ความหมายที่แท้
หากเปรียบชีวิตได้เป็น 3 ฤดู วัยเยาว์ คือ ฤดูฝน หนุ่มสาวคือฤดูร้อน... วัยชราคือฤดูหนาว ดั่งต้นไม้ที่กำลังเติบใหญ่ ความยืนยาวของชีวิต มิอาจสร้างอาณาเขตของการยืนต้นได้ แต่เมล็ดและร่มเงาต่างหาก ที่ได้สร้างอาณาจักรเป็นที่กล่าวขานในหมู่สรรพชีวิตมิสิ้นสุด ฤดูแห่งปฐมวัยได้เริ่มขึ้นเราได้แย้มยิ้ม สนุกสนานและเรียนรู้มากมายมิจบสิ้น ความร้อนรนของสังคมหลอมหล่ออุดมการณ์ไปสู่ฤดูแห่งวัยหนุ่มสาว ความทรงจำที่จะเล่าขาน สติปัญญาอันแก่กล้าสวนทางกับความอ่อนล้า ของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยชรา ปลดปล่อยเพื่อจะก้าวเดินไปเพื่อจะเริ่มต้นใหม่ สรรค์สร้างฤดูแห่งชีวิตอันทรงคุณค่ายิ่งขึ้น...
แม่สร้างความเป็นแม่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้น แม่สร้างความเป็นลูกด้วยอาทรและห่วงหา แม่คือปฏิมากรเอกปั้นดวงจิตและวิญญา ปรุงแต่งความฝันและปัญญาด้วยรักที่ใสบริสุทธิ์ แม่คือผู้สร้างสรรค์ลูกน้อย ด้วยพรจากสรวงสวรรค์ แล้วก็เฝ้ามองปฏิมากรรมเลิศนี้ด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตา
จากวันที่เหนื่อยล้า ผิดหวัง เศร้า และพ่ายแพ้ ก็มีวันใหม่ที่เริ่มต้น ดั่งวันแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ สัญญาแห่งฤดูกาลมิเคยแปรเปลี่ยน ใบไม้แรกแห่งความหวังกำลังโบกสะบัด ฉันก้าวเดินไปบนเศษซากใบไม้ที่ร่วงลงของวันวาน ท่ามกลางบทเพลงของผืนป่าที่บรรเลงเพลงใบไม้ผลิ
ชีวิตรักดั่งผืนทราย หวั่นไหวไปกับฟองคลื่นลมทะเล เฝ้ารอวันหวลคืนและถ้อยคำอำลาของผู้มาเยือนจากแดนไกล นานนักหนา ณ. ที่ตรงนี้ พร่ำบอกกับสายน้ำ กระซิบผ่านละรอกคลื่นถึงมิตรแท้ในหัวใจ อยากให้เธอกลับมาแม้จะรู้ว่ามันเจ็บปวด ฉันพร้อมแตกสลายไปในความฝันกับสายน้ำที่เซาะฝั่ง
เก็บคำว่ารักจากใจ บอกเธอคนนี้ด้วยใจ เก็บซ่อนความหมายมากมาย มีเราเท่านั้นรู้คำตอบ นี่คือคำถามคาใจ รอวันเฉลยออกไป มีเธอมีฉันและหัวใจ จะตอบคำถามคำนี้ รักสองทางคงไม่มีวันสมใจ คนสามคนกับหัวใจไหวหวั่น จะเลือกทางใดหัวใจคงแหลกราน คืนวันผันผ่านรักคงสลาย มีใจสองใจรักคงแหลกราน