"ฟังสบายๆ เพื่อการพักผ่อน ให้บรรยากาศยามเช้า ผสมผสานความเป็นไทย"
ทุ่งข้าวเหลืองอร่าม อารยะธรรมแห่งการดำเนินชีวิต กับธัญญาหารอันอุดม อยู่คู่วัฒนธรรมไทยมาแต่บรรพกาลเรามิเพียงเก็บเกี่ยวอาหาร เรายังเก็บเกี่ยวลมหายใจแห่งท้องทุ่ง ความรัก ความอาทร สืบทอดไปสู่พี่น้องในครอบครัวใหญ่แห่งโลกและจักรวาล
หนทางที่ทอดยาว มิได้มองเห็นด้วยตา แต่ด้วยปัญญาและใจเพียงเท่านั้น ที่จะพาเราไปสู่จุดหมายได้ใจเอยอย่าหวั่นไหว ปัญญาจงกล้าแกร่ง ฝึกฝน ใคร่ครวญ ชีวิตอยู่ที่ใจของเราเอง หนทางที่ทอดยาวนี้ มีผู้คนมากมายร่วมเดินทาง มีผู้คนมากมายเดินทางสวนกลับ มีเส้นทางแตกแยก หลากทาง หลายแพร่ง จิตเอยอย่าหวั่นไหว ใจเราจงนิ่งและมุ่งสู่จุดหมาย โดยปัญญา
อาหารของจักรวาล ฟูมฟักรักษาเผ่าพันธุ์มนุษยชาติมาแสนนาน เอนโอน ผ่อนลู่ตามสายลม รอสองมือของชาวนามานำไปหล่อเลี้ยงชีวิต ใครเคยเฝ้ามอง ทุ่งรวงทองที่ยืนชูรวงอยู่เต็มทุ่งสุดสายตา คือความอมตะแห่งนิรันดร์กาลที่เวียนว่ายหมุนกลับมาบอกกล่าวเล่าขานตำนานของจักรวาล
ไหลเรื่อยๆ เอื่อย อ้อยอิ่ง นี่คือสัจธรรมอันลุ่มลึก.. ลูบไล้ผืนโลกเป็นแนวทางอันมั่นคง อย่าเปลี่ยนทางเดินสายนทีสายน้ำไหลไปตามทางที่ควรจะเป็น จากที่สูงสู่ที่ต่ำกว่า จากแหล่งหนึ่งไปสู่อีกแหล่ง เลี้ยวผ่านโค้งเนินและหินผาด้วยเหตุผลที่สถิตนิ่งเป็นอมตะ ล่องไหลตามสายนที ค้นหาสัจธรรมแห่งชีวิต สายน้ำกลับสู่สายน้ำ ชีวิตกลับสู่ชีวิตเป็นเช่นนี้มิเคยเปลี่ยน
ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน ดั่งอาทิตย์ฉายฉานทุกอรุณ วันคืนที่เลวร้ายได้ผ่านพ้น ยังมีวันที่สดใสรออยู่ข้างหน้าเป็นกำลังใจและศรัทธาของชีวิตอันมีค่า เราจะดำรงอยู่เพื่อสรรสร้างและค้นหาความหมาย ชีวิตไม่อาจตายได้... ตราบที่ใจยังเป็นของเรา
เมื่อสายลมพัดกิ่งส้มไหวเอน ...นกสีเหลืองร้องบทเพลงแห่งความคิดถึง สายหมอกระลอกไล่ระบายภาพแห่งความหลัง ...สายน้ำเรื่อยไหลบอกวันเวลาและนาที มีใครบางคนรอการกลับไป ณ ที่ซึ่งความรักคือนิรันดรกาล ที่ซึ่งความฝันคือความจริง
คำเชื้อเชิญ แววตาที่ต้อนรับ กิริยาอันอบอุ่น คือสิ่งที่ทำให้เราคิดถึงมิตรผู้เคยพบ คิดถึงด้วยจิตที่รำลึกถึงวันอันบริสุทธิ์ ขอให้ความคิดถึงนี้ส่งไปถึงมิตรผู้อารี ผู้ให้แรงบันดาลใจ... ผู้ให้สายทาง ผู้ให้เราได้มีความฝัน แม้เราจะไม่ได้พบกันอีกแต่ใจยังคงคิดถึงอยู่เสมอ... มิตรคงจะรู้ วันที่คิดถึงจึงอยู่ในใจของเรา
อย่าเหนื่อย อย่าท้อ อย่าเหงาหรือเศร้าใจ ไม่มีใครตอบได้ ว่าหนทางนี้จะสิ้นสุดที่ใด นอกจากตัวเราจะรู้ได้เอง หนทาง... แม้จะขรุขระ เต็มไปด้วยอุปสรรค ชีวิตไม่มีอะไรคับขันเกินกว่าที่เราเคยประสพมาตั้งแต่ตอนเราเกิด นั่นคือวันที่คับขันที่สุดแล้ว การเดินทางยังไม่สิ้นสุด นักเดินทางอย่างเรายังคงเดินทางไปเรื่อยๆ มือประสานมือต่อกันเป็นโซ่ ชีวิตก้าวไปข้างหน้า สู่จุดหมายที่ตั้งใจ
คือคำอันยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างใฝ่หา ...ผู้คนต่างใฝ่สร้าง มิตรภาพในหมู่ชนก่อให้เกิดสันติภาพ ภราดรภาพ ...อย่าทำลายมิตรภาพด้วยโลภ โกรธ หลง มิตรภาพจะดำรงอยู่ในใจ เราต้องส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปสู่มวลชน แผ่กระจายไปทั่วโลก ทั่วจักรวาล เราต้องหยุดความรู้สึกเกลียดชังที่ถูกส่งผ่านมาสู่เรา กลั่นให้กลายเป็นอภัยและสร้างมิตรภาพมาแทนที่
จิตรกรแห่งฟากฟ้า สร้างงานศิลป์อย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ...เป็นม่านบางๆ อ่อนไหวตามสายลม เราเฝ้ามองเมฆระบายพู่กัน นับหมื่นนับล้านภาพไม่เคยซ้ำ เป็นตัวอย่างแก่ชาวโลก ให้รู้ถึงความวิริยะ ดั่งจะบอกแก่ชาวโลกว่าอย่าหยุดสร้างความฝันและความดี ...แหงนมองท้องฟ้าทุกวันๆ บางวันปุยเมฆขาวๆ จะบอกถึงชีวิตและหนทาง อันยิ่งใหญ่แก่เรา
ไกลเกินสายตา แต่ใจยังคิดถึง สายใจแห่งชีวิตเกิดมาพร้อมกับจิตที่หวั่นไหว ใครจะรู้ชีวิตยังมีห่วงอยู่อีกเท่าไหร่ ณ ที่ไกลออกไปยังมีผู้ที่ห่วงใย และรอคอยการกลับไปของเราทุกคน
การลาจากในวันนี้ หาใช่วันสุดท้าย ชีวิตมีการพบและการลาจากอยู่ทุกซีกเสี้ยวเวลา เมื่อได้พบเธอฉันนึกถึงวันอำลา เมื่ออำลา ฉันนึกถึงวันที่จะได้กลับมาพบกัน ณ ฝั่งมหาสมุทรแห่งความคำนึง ไม่มีวันอำลาเพราะเรามีหัวใจและลมหายใจเดียวกัน
เราผองต่างเป็นพี่น้องของบิดาแห่งความทุกข์ มารดาแห่งอาทร สายธารแห่งน้ำตาบนผืนแผ่นดินที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เราลืมความเป็นพี่น้อง นิพพานนั้นคงไกลเกินที่เราจะรำลึกถึงวันแห่งความสุขอันแท้จริง.