|
โลกหมุนไป แปรเปลี่ยนสรรพสิ่ง และกาลเวลา |
|
ลมหายใจของฤดูกาลสร้างสีสรรของชีวิตและจิตวิญญาน |
|
โลกบอกอะไรไว้มากมาย เฉกเช่นเวทีที่ดวงจิตมาเวียนว่าย |
|
เมื่อโลกนี้กำเนิด และเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย |
|
หัวใจอ่อนละโหยกระแอมไอบอกเตือนสรรพชีวิต |
|
เราอยู่ในอารยะที่เปลี่ยนแปร อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่าน |
|
เหมือนใจมนุษย์ที่ยังไม่นิ่ง และหวั่นไหวตลอดเวลา |
|
|
|
ฉันนั่งลง ณ ริมธารใส |
|
แว่วเสียงน้ำและหริ่งหรีดเรไร |
|
ค่อยๆ จางหาย |
|
จางหายไปกับลมหายใจแผ่วเบา |
|
|
|
บทกวีแห่งความเงียบ |
|
สลักบนผืนดินชุ่มน้ำ |
|
เหน็บหนาว ราวชีวิตในคืนมืดมิดกลางทะเลไร้คลื่น |
|
ตราบคำสุดท้าย บนหน้าสุดท้าย |
|
คือบทสรุปของการเดินทางไกล |
|
ม่านเวทีปิดเปลือกตาลาจาก |
|
ไกลแสนไกลสู่ชีวิตหลังมายาการ |
|
|
|
สายน้ำแห่งนิรันดร์กาล บอกเล่าเรื่องราว |
|
และตอบแทนความรู้สึกทั้งมวล |
|
สายน้ำยังคงไหลไป |
|
เป็นนาฏกรรมแห่งชีวิตและความรักที่มิอาจหวนคืน |
|
|
|
เมื่อสายลมพัดผ่าน |
|
ลมหนาวมิได้มีแต่เพียงไอหนาว |
|
ยังพัดพาไออุ่นจากบ้านเก่า |
|
ทำให้หวนนึกถึงอดีตแสนไกล |
|
ลมหนาวพัดมาครานี้ |
|
กิ่งส้มโน้มราวจะหักลง |
|
มีเสียงอื้ออึงดังใครมาทายทัก |
|
|
|
สองฟากฝั่งลำน้ำแห่งภราดรภาพ เธอและฉันนั่งอยุ่สองริมฝั่ง |
|
สบตาบอกกล่าวความงามและความรัก |
|
สองฟากฝั่งแสนไกลนักหนา อยากบอกความคิดถึงของราตรีที่ผันผ่าน |
|
มีเสียงหัวใจร้องเรียก |
|
เพียงเสียงกระซิบจากลมหายใจฝากผ่านปลายปีกของเรไร |
|
เพื่อคลายความหนาวจากน้ำค้างคืนพระจันทร์แรม |